Best Seller

น้ำมันปลา Fish oil GIFFARINE 500มก. 90แคปซูล

คุณสมบัติสินค้า:

น้ำมันปลา Fish oil GIFFARINE น้ำมันตับปลา บำรุงสมอง บำรุงข้อเข่า ข้ออักเสบ ดูแลหัวใจ หลอดเลือด โรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ ทานได้ทุกเพศทุกวัย

หมวดหมู่ : อาหารเสริม

Share

น้ำน้ำมันปลา กิฟฟารีน 500 มก. (90 แคปซูล)
Fish Oil Giffarine



            น้ำมันปลา ประกอบด้วยกรดไขมันโอเมก้า-3 และกรดไขมันโอเมก้า-6 สำหรับกรดไขมันโอเมก้า-3 นั้นจะแบ่งออกเป็น EPA และ DHA เป็นหลัก ซึ่งเป็นกรดไขมันที่มีความจำเป็นต่อร่างกายอย่างมาก เพราะว่าร่างกายไม่สามารถสร้างขึ้นมาเองได้ และต้องได้รับจากสารอาหารเท่านั้น สำหรับกรดไขมันในกลุ่มโอเมก้า-6 นั้นก็มีความสำคัญไม่แพ้กัน เพราะช่วยลดไขมันในเลือดได้ นอกจากปลาแล้วยังพบมากในน้ำมันพืชหลายชนิด เช่น น้ำมันข้าวโพด น้ำมันดอกคำฝอย น้ำมันดอกทานตะวัน น้ำมันถั่วเหลือง เป็นต้น

น้ำมันปลา ในปัจจุบันเป็นที่ยอมรับกันแพร่หลายในวงการแพทย์ว่า น้ำมันปลา คือ หนึ่งในอาหารเสริมสุขภาพที่ให้ประโยชน์สูงสุดต่อผู้บริโภค ให้ผลดีมากในการลดไขมันในเลือด และลดระดับไตรกรีเซอไรด์ในเลือด ป้องกันโรคหัวใจ โรคความดันสูง และโรคเบาหวาน



         น้ำมันปลา ประกอบด้วยอะไรบ้าง ?
น้ำมันปลา ประกอบด้วยกรดไขมันจำเป็นประเภทโอเมก้า 3 อยู่มาก ซี่งในกลุ่มของโอเมก้า 3 นั้นเรายังสามารถแบ่งได้เป็น 2 ชนิด ที่สำคัญคือ

กรดโดโคซาเฮกอีโนอิก (Docosahexaenoic Acid) หรือ DHA เป็นกรดไขมัน (fatty acid) กลุ่มกรดไขมันชนิดไม่อิ่มตัว (unsaturated fatty acid) ซึ่งมีพันธะคู่หลายพันธะ (polyunsaturated fatty acid) มีจำนวนคาร์บอน 20 อะตอม มีพันธะคู่ 5 อัน และมีพันธะคู่อยู่ในตำแหน่ง โอเมกา-3 (omega-3 fatty acid)
กรดไอโคซาเพนทาอีโนอิก (Eicosapentaennoic Acid) หรือ EPA เป็นกรดไขมัน (fatty acid) ชนิดกรดไขมันไม่อิ่มตัว (unsaturated fatty acid) ที่มีพันธะคู่มากกว่า 2 พันธะ (polyunsaturated fatty acid) มีโครงสร้างเป็นกรดไขมันโอเมกา-3 (omega-3 fatty acid)



กรดโดโคซาเฮกอีโนอิก (Docosahexaenoic Acid) หรือ DHA

            แหล่งที่พบในอาหาร : อาหารซึ่งเป็นแหล่งสำคัญของ docosahexaenoic acid  ได้แก่ น้ำนมแม่ พบในอาหารทะเล เช่น ปลาแซลมอน ปลาทูน่า น้ำมันปลา จากปลาทะเลน้ำลึก ไข่แดง สไปรูริน่า ร่างกายยังสามารถสังเคราะห์  (DHA) ได้ จากกรดลิโนเลอิก (linoleic acid) และกรดลิโนเลนิก (linolenic acid)

            ประโยชน์ต่อสุขภาพ : DHA เป็นกรดไขมันโอเมกา-3 ซึ่งเป็นโครงสร้างพื้นฐานที่พบมากที่สุดในเซลล์สมองและประสาทตา  โดยพบในเซลล์สมอง 40% และพบในประสาทตา 60% มีความสำคัญและจำเป็นต่อการพัฒนาของสมองและประสาทตา ช่วยในการพัฒนาสมองทารก มีส่วนช่วยให้ทารกฉลาด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง ในช่วง 3 ขวบปีแรก


กรดไอโคซาเพนทาอีโนอิก (Eicosapentaennoic Acid) หรือ EPA

            แหล่งที่พบ : กรดอีโคซะเพนตาฃะอีโนอิก (eicosapentaenoic acid, EPA) พบมากในน้ำมันปลา (fish oil) น้ำมันลินสีด (linseed oil) น้ำมันวอลนัท (walnut oil) น้ำมันคาโนล่า (canola oil) น้ำมันถั่วเหลือง (soybean oil) น้ำมันข้าวโพด และสาหร่าย

            ประโยชน์ต่อสุขภาพ : กรดอิโคซะเพนตะอีโนอิก (eicosapentaenoic acid, EPA) มีประโยชน์ช่วยในการลดระดับคอเลสเตอรอล (cholesterol) และไตรกลีเซอไรด์ (triglyceride) ในเลือด และช่วยเพิ่มระดับ HDL ในเลือด ทำให้ลดภาวะหลอดเลือดอุดตัน ซึ่งเป็นสาเหตุของโรคต่างๆ เช่น ความดันโลหิตสูง โรคหัวใจ เป็นต้น
            นอกจากนี้ ยังถูกนำไปสร้างสารกึ่งฮอร์โมน พลอสตาไซคลิน-3 (prostacyclin-3) และ ทรอมบอกแซน-3 (thomboxan-3) ซึ่งทำให้หลอดเลือดขยายตัว เลือดไม่เกาะกันเป็นก้อน ลดการเกิดลิ่มเลือดและทำให้เลือดไม่แข็งตัวง่าย


โรคไขมันในเลือดสูง


            เป็นภาวะที่ร่างกายมีระดับไขมันในเลือดสูงกว่าปกติ อาจเป็นระดับโคเลสเตอรอลสูงหรือระดับไตรกลีเซอร์ไรด์สูงอย่างใดอย่างหนึ่งหรือสูงทั้งสองชนิดก็ได้ ภาวะไขมันในเลือดสูงสามารถทำให้หลอดเลือดแข็ง ตีบ อุดตัน ซึ่งเป็นปัจจัยเสี่ยงสำคัญที่ทำให้เกิดโรคหัวใจและหลอดเลือด 

น้ำมันปลาช่วยลดไขมันในเลือดได้อย่างไร ?
            จาก การศึกษาพบว่า สามารถลดระดับของไตรกีรเซอไรด์ในเลือดได้ถึง 19 – 24 % แต่ไม่ลดโคเลสเตอรอล การที่น้ำมันปลาสามารถลดไขมันเลือดได้นี้ เชื่อว่า เกิดจากที่ DHA /EPA ลดการสร้างไตรกรีเซอไรด์ลง และไปยับยั้งการทำงานของเอนไซม์ในตับชื่อ Acylransferases และ Phosphatidatephoshydrolase นอกจากนี้น้ำมันปลายังช่วยเพิ่มปริมาณของ DHL ซึ่งจะทำให้มีการเก็บโคเลสเตอรอลในเลือดและผนังหลอดเลือดกลับสู่ตับ และเปลี่ยนน้ำดีเพื่อขับออกนอกร่างกาย

ที่มา : http://sriphat.med.cmu.ac.th (ข้อมูลวันที่ 14 พ.ค. 2563)



โรครูมาตอยด์

            รูมาตอยด์ (Rheumatoid Arthritis) หรือโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ เป็นโรคที่มีการอักเสบของส่วนต่าง ๆ ในร่างกาย ไม่ใช่เพียงที่ข้อ เกิดจากระบบภูมิคุ้มกันในร่างกายทำงานผิดปกติและไปทำลายอวัยวะต่าง ๆ ในร่างกายตัวเอง ในผู้ป่วยบางรายพบว่ามีภาวะที่มีผลกระทบต่อระบบต่าง ๆ ในร่างกาย เช่น ผิวหนัง ดวงตา ปอด หัวใจ และหลอดเลือด

น้ำมันปลาช่วยลดการบวมของโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์ได้อย่างไร ?
            สาร DHA /EPA จะลดการสร้างโพรสตาแกลนดิน ชนิดลิวโคไตรอีน ซึ่งเป็นสารก่อการอักเสบ ทำให้สามารถลดการอักเสบและบวมของข้อได้

            จาก การทดลองของ Tulleken และคณะ ได้ให้ผู้ป่วยโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์รับประทานน้ำมันปลา 12 กรัม / วัน พบว่าการบวมของข้อรวมทั้งการเคลื่อนไหวลำบากของข้อลดลง ซึ่งเราสามารถใช้น้ำมันปลาเป็นอาหารเสริมร่วมกับยาที่ใช้อยู่เพื่อลดการบวม และการอักเสบของข้อได้

ที่มา : https://www.pobpad.com (ข้อมูลวันที่ 14 พ.ค. 2563)



โรคหลอดเลือดหัวใจ
            หากคนไข้พบแพทย์ด้วยอาการแน่นหน้าอก หรืออาการอื่นที่กล่าวมาข้างต้น คนไข้จะได้รับการตรวจคลื่นไฟฟ้าหัวใจภายใน 10 นาที และเจาะเลือดเพื่อดูเอนไซม์ของหัวใจ หากสูงขึ้นแสดงว่ามีการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อหัวใจ ร่วมกับซักประวัติคนไข้ สอบถามระยะเวลาที่เจ็บแน่นหน้าอก หากมากกว่า 20 นาที อาจเกี่ยวข้องกับอาการหลอดเลือดหัวใจตีบตัน

น้ำมันปลาจะช่วยในโรคเส้นเลือดหัวใจอุดตันได้อย่างไร ?
            น้ำมันปลา ช่วยในโรคเส้นเลือดหัวใจอุดตัน โดยกลไกการจับตัวของเกล็ดเลือด ทำให้เลือดไหลเวียนคล่องขึ้น จึงลดทั้งอุบัติการณ์การเป็นโรคนี้ และลดอัตราการตีบซ้ำในผู้ที่เป็นโรคนี้แล้ว

ที่มา : https://www.paolohospital.com (ข้อมูลวันที่ 14 พ.ค. 2563)


 สาร DHA ในน้ำมันปลาช่วยบำรุงสมองได้อย่างไร ?
            ใน ประเทศญี่ปุ่นช่วงหลายปีที่ผ่านมา มีผลงานวิจัยแสดงผลอย่างชัดเจนว่า สาร DHA ในน้ำมันปลามีส่วนสำคัญในการพัฒนาสมอง โดยสาร DHA จะช่วยบำรุงสมองให้ทำงานดีขึ้น DHA ผ่านเข้าไปในสมองและเสริมสร้างการเจริญเติบโตของปลายประสาทที่เรียกว่า Dendrite บริเวณของ Dendrite นี้จะทำหน้าที่ถ่ายทอดสัญญาณและผ่านข้อมูลระหว่าเซลล์สมองด้วยกัน ดังนั้นจึงมีการแนะนำให้รับประทานเนื้อปลา



สรุปประโยชน์ของน้ำมันปลา
ช่วยบำรุงสุขภาพผิว เส้นผม และเล็บให้มีสุขภาพดี
น้ำมันปลาช่วยบำรุงประสาทและสมอง ช่วยเพิ่มความจำและความสามารถในการเรียนรู้
ช่วยลดระดับคอเลสเตอรอลและไตรกรีเซอไรด์ที่เป็นอันตราย
ช่วยลดความเสี่ยงของการเกิดโรคหัวใจวายเฉียบพลัน
ช่วยรักษาโรคความดันโลหิตสูง
ช่วยลดความเสี่ยงจากการเกิดเส้นเลือดในสมองแตก
น้ำมันปลาช่วยป้องกันโรคหลอดเลือดแดงแข็งตัว
ช่วยลดความเสี่ยงต่อการเกิดลิ่มเลือดในกระแสเลือด เพราะไปลดความหนืดของเกล็ด
เลือดและลดปริมาณสารไฟบรินในเลือด
ช่วยรักษาและลดความเสี่ยงของโรคมะเร็งเต้านม
ช่วยบรรเทาอาการคันและแห้งของโรคสะเก็ดเงิน
ช่วยลดความถี่และความรุนแรงของโรคปวดศีรษะไมเกรน
น้ำมันปลาช่วยต่อต้านผลร้ายจากสารโพรสตาแกลนดิน ซึ่งมีส่วนไปลดภูมิต้านทานของ
โรคและไปเพิ่มการเจริญเติบโตของเนื้องอก
ช่วยบรรเทาอาการอักเสบ ปวด บวมของโรคข้ออักเสบรูมาตอยด์
ช่วยเพิ่มพัฒนาการในด้านสายตาและสมองของทารก
ช่วยป้องกันการเกิดภาวะสมองเสื่อมหรือโรคอัลไซเมอร์ในผู้สูงอายุ จบแล้วประโยชน์ของน้ำมันปลา

ที่มา : https://medthai.com (ข้อมูลวันที่ 14 พ.ค. 2563)


น้ำมันปลา กิฟฟารีน 500 มก. (90 แคปซูล) Fish Oil Giffarine
น้ำมันปลา 500 มก. กิฟฟารีน

ส่วนประกอบที่สำคัญโดยประมาณใน 1 แคปซูล :
น้ำมันปลา 500 มก.
วิตามินอี (1200หน่วยสากล/กรัม)  4,160 มก. ประกอบไปด้วยกรดไอโคซาเพนทาอีโนอิก (อีพีเอ) 180มก. กรดโดโอซาเฮกซาอีโนอิก (ดีเอชเอ) 120 มก.

รหัสสินค้า 40201
ปริมาณสุทธิ : 90.00 แคปซูล
จำนวน : 1 กระปุก
ราคาเต็ม 320.00 บาท

สมาชิกซ์้อได้ในราคา 240 บาท

Powered by MakeWebEasy.com
เว็บไซต์นี้มีการใช้งานคุกกี้ เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและประสบการณ์ที่ดีในการใช้งานเว็บไซต์ของท่าน ท่านสามารถอ่านรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ นโยบายความเป็นส่วนตัว  และ  นโยบายคุกกี้